ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

จองห้องพักทางไหนดี ?

ช่องทางการจองห้องพักในโลกออนไลน์มีให้เลือกมากมายหลายช่องทาง และด้วยพฤติกรรมของลูกค้าที่มีความเชื่อมโยงกับโลกออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้การแข่งขันของผู้ให้บริการขายห้องพักในโลกออนไลน์มีการแข่งขันกันสูงขึ้น ปรับปรุงรูปแบบระบบการใช้งานให้ทันสมัย น่าสนใจ และใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว และที่สำคัญปลอดภัยในเรื่องระบบการชำระเงิน

ลองเลือกมา 3 ช่องทางมาตั้งข้อสังเกตกันว่าแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรในด้านการรับรู้ของลูกค้า

1) Online Travel Agent (OTA) ได้แก่พวกรับจองห้องพักทางออนไลน์ ลูกค้าสามารถเข้าไปจองห้องพักได้โดยตรง มีโปรโมชั่นกระหน่ำตลอดเวลา มีราคาให้เลือกทั้งรวมอาหารเช้า ไม่รวมอาหารเช้า ช่องทางนี้ที่เป็นที่นิยมในบ้านเราได้แก่ booking.com, agoda.com, expedia.com เป็นต้น  ซึ่งราคาที่แสดงอยู่บนหน้าจอสำหรับลูกค้านั้น ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการจัดการ หรือ Handling fee ซึ่งจะอยู่ประมาณ 800 กว่าบาทต่อการจองแต่ละครั้ง  เพราะฉะนั้นเวลาลูกค้าเจอตัวเลขราคาที่น่าสนใจ ก็จะเข้าไปคลิกทันที  ปัจจุบันยังมีการสร้างโปรโมชั่นแบบใช้ราคาลดกระหน่ำในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง พร้อมเงื่อนไขการจองที่แตกต่างจากราคาทั่วไป ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีวันและเวลาเดินทางที่แน่นอนแล้ว การจองในราคานี้ก็ประหยัดไปได้มากพอสมควร

OTA : สะดวกรวดเร็ว ใช้งานง่าย ราคาน่าสนใจ เงื่อนไขอ่านให้ละเอียด

2) Airbnb เป็นช่องทางการขายใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ใช่โรงแรม แต่มีห้องพัก บ้านที่ต้องการปล่อยให้เช่า สามารถนำบ้านของตัวเองมาประกาศในเว็บนี้ได้ โดยต้องเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับบ้านพัก/ห้องพัก สถานที่ตั้ง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ พร้อมภาพถ่าย และช่องทางให้ลูกค้าติดต่อพูดคุยโดยตรงกับเจ้าของ  ซึ่งราคาขายใน airbnb เป็นราคาที่เข้ามาสร้างการแข่งขันในตลาดให้เข้มข้นขึ้น แต่อย่างไรก็ดีในด้านของการบริการจะแตกต่างจากการพักในโรงแรม คือจะไม่มีการบริการในแบบโรงแรม ดังนั้น การพูดคุยให้เข้าใจระหว่างลูกค้าและผู้ให้เช่าควรจะติดต่อกันให้ละเอียดรอบคอบ บางรายภาพถ่ายสวยงามน่าสนใจมา สถานที่ตั้งก็สะดวกสบาย แต่พอไปเจอสภาพจริง กลับกลายเป็นคนละเรื่อง เก่า ทรุดโทรม ไม่สะอาด อยู่ในย่านที่ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ เป็นต้น

airbnb : สะดวก รวดเร็ว ใช้งานง่าย คุยกับเจ้าของบ้านโดยตรง ไม่มีบริการในแบบโรงแรม

3) การจองตรงกับโรงแรม   ปัจจุบันโรงแรมพยายามที่จะทำให้ลูกค้าหันมาจองห้องพักโดยตรงกับโรงแรมมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่าย ได้แก่ค่าคอมมิชชั่นที่ต้องจ่ายให้กับ  Online Travel Agent ทั้งหลาย ซึ่งหากโรงแรมใดยังไม่เคยคำนวณค่าใช้จ่ายส่วนนี้ แต่ปลาบปลื้มกับยอดจองที่มีเข้ามาล้นหลามผ่านทาง Online Travel Agent ขอแนะนำให้เร่งคิดคำนวณ และหาทางปรับปรุงช่องทางการจองตรงให้มีปริมาณมากขึ้น
    การจองตรงกับโรงแรม จริงๆแล้วเป็นข้อได้เปรียบในเรื่องการตั้งราคา การจัดแพ็คเกจให้น่าสนใจ รวมทั้งการแจก/แถมบริการต่างๆให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเป็นคนพิเศษและภูมิใจที่เป็นลูกค้าของคุณ ดังนั้น คำอธิบายที่สั้น กระชับ และน่าสนใจ จะช่วยสร้างความเข้าใจให้กับลูกค้าได้ดี  และยิ่งมีรีวิวที่ดีเปรียบเทียบให้เห็นว่าการจองตรง ได้สิทธิพิเศษที่น่าสนใจและคุ้มค่ากว่าการจองผ่าน Online Travel Agent อย่างไร รับรองว่าปริมาณการจองตรงจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
      อย่างไรก็ดีในส่วนของทางด้านเทคนิคในการสร้างปริมาณการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ (Traffic) นั้น Online Travel Agent มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งกว่าโรงแรมขนาดเล็กอย่างมาก ดังนั้น เราจึงยังคงมีความจำเป็นในการใช้ Online Travel Agent เพื่อช่วยในการเพิ่มการเข้าถึง   แต่ควรใช้ในแบบที่ป้องกันความเสี่ยง คือ ไม่ใช้ช่องทางการขายกระจุกตัวอยู่ที่ช่องทางใดช่องทางหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียว

จองตรง : ต้องเพิ่มประสิทธิภาพในด้านราคาและเงื่อนไขสิทธิพิเศษให้ชัดเจนมากขึ้น สร้างเว็บไซต์ที่สามารถใช้งานและรองรับกับอุปกรณ์สื่อสารประเภทต่างๆ ขั้นตอนการจองที่สั้นกระชับรวดเร็วและปลอดภัย



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

BOH1-01 : ทรัพย์สิน และหลังบ้านของโรงแรม

สำหรับโรงแรมที่พักขนาดเล็ก หลังบ้านจะช่วยจัดการงานอย่างไร? ผู้ประกอบกิจการขนาดเล็กถึงขนาดกลางมีข้อจำกัดด้านการลงทุนที่แตกต่างกัน แต่เราไม่ควรนำข้อจำกัดนั้นมาเป็นข้ออ้าง "การไม่ลงมือทำ" เพราะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันแต่อย่างใด เราลองมาดูตัวอย่าง การทำทะเบียนทรัพย์สิน และจดบันทึกรายการเครื่องมือเครื่องใช้ ต่างๆของแต่ละแผนกกันว่า ทำไมจึงเป็นปัญหาและมักเป็นข้ออ้าง ข้อหลีกเลี่ยงของพนักงานแม้กระทั่งในระดับหัวหน้างานเองที่มักจะเลือกที่จะทำรายการนี้ในลำดับหลังๆ  ถ้าพบเห็นพนักงานที่มีลักษณะเช่นนี้ แนะนำให้พิจารณาทบทวนใหม่เพราะไม่ใช่คุณสมบัติของพนักงานฝ่ายบัญชีการเงินที่ดีแต่อย่างใด การทำทะเบียนทรัพย์สินและการจดบันทึกรายการซื้อเครื่องมือเครื่องใช้ควรเริ่มลงมือทำตั้งแต่โครงการเริ่มก่อสร้างโดยแยกออกให้ชัดเจนระหว่างการก่อสร้าง การเตรียมการก่อนเปิด และเมื่อโรงแรมเปิดให้บริการ สำหรับโรงแรมที่ไม่ได้มีการสั่งซื้อระบบบันทึกข้อมูลด้านทรัพย์สินสำหรับแผนกบัญชี ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล เราสามารถทำรายการจดบันทึกได้โดยจัดเป็นหมวดหมู่ให้ชัดเจน จะจดบันทึกลงในสมุดและคั่นด้วยกระดาษแบ่...

เปลี่ยนผ่านที่แตกต่าง

สำ หรับโครงการสร้างใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโฮสเทล บูติกโฮเต็ล โรงแรม หรือรีสอร์ท สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนกับโครงการก่อสร้างอื่นๆ คือช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างโครงการก่อสร้าง มาเป็นโรงแรมที่พักที่พร้อมให้บริการต้อนรับลูกค้า สิ่งที่ควรทำความเข้าใจเพื่อให้เห็นภาพตั้งแต่เริ่มการก่อสร้างโครงการคือ ลำดับช่วงเวลา และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ไปจนถึงภาพต่างๆที่จะได้เห็นร่วมกัน  ทั้งทีมผู้ออกแบบ ผู้รับเหมาก่อสร้าง เจ้าของโครงการ และทีมงาน เพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักในหน้าที่และกรอบเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อให้โครงการสำเร็จตามกำหนดและตามเป้าหมายที่วางไว้ ยกตัวอย่างเช่น โครงการก่อสร้าง 8 เดือน แบ่งเป็น - งานฐานราก 2 เดือน - งานโครงสร้างสถาปัตยกรรมพื้นที่ส่วน A  รวม 2 เดือน - ห้องตัวอย่าง (เลือกพื้นที่และห้องที่ต้องการใช้เป็นห้องตัวอย่าง) ภายในเดือนที่ 4 เพื่อให้ทางทีมขายและทีมการตลาดสามารถเตรียมงานด้านการขายและการตลาดได้อย่างเต็มที่ มีเวลาแนะนำโครงการให้กับคู่ค้าต่างๆได้อย่างทั่วถึง - พื้นที่ส่วนสำนักงาน (BOH - Back of the House) เป็นลำดับต่อมา อาจเป็นเดือนที่ 5 เพื่อเตรียมรับสมัครงาน เตรีย...

วางแผนการใช้จ่าย

การจัดการด้านการเงินของโรงแรมที่พักขนาดเล็ก ไม่ว่าจะกี่ห้อง 4 ห้อง 15 ห้อง 35 ห้อง เป็นสิ่งจำเป็น อย่าไปคิดว่าโรงแรมที่พักขนาดเล็กไม่มีความจำเป็นต้องจัดทำงบประมาณ วางแผนค่าใช้จ่าย  ต้องแยกประเด็นให้ถูกเวลาเราพูดถึงจัดทำงบประมาณ  อย่าไปกังวลกับรูปแบบว่าจะต้องมีรูปแบบตารางเหมือนเช่นกับโรงแรมขนาดใหญ่  เจ้าของกิจการหลายท่านมักมีข้อกังวลตรงนี้ เพราะเวลาเข้าร่วมสัมนาหรือไปฟังบรรดาผู้รู้ทั้งหลายอธิบาย แล้วนำตัวอย่างตาราง หรือรายงานของโรงแรมขนาดใหญ่มาแสดงให้ดู  ก็เลยถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น   เปลี่ยนความคิดใหม่ และเริ่มจากในสิ่งที่เราทำได้ในแบบของเรา แล้วค่อยๆพัฒนาให้มีความละเอียดมากขึ้น การนั่งดูแต่รายรับหรือขาเข้าที่เข้ามาในแต่ละวัน โดยที่ไม่เคยมีการจัดระเบียบทั้งฝั่งค่าใช้จ่าย หรือขาออก เมื่อกิจการเติบโตมากขึ้น ความสลับซับซ้อน หรือจำนวนรายการก็จะมากขึ้น แต่ถ้าเราจัดหมวดหมู่รายการให้เป็นกลุ่มเป็นประเภทให้ชัดเจน เพื่อที่เราจะได้รู้สถานะของเรา จะทำให้เราสามารถบริหารจัดการ และรู้ได้ว่า ตรงไหนเราจะสามารถปรับ ตัด ลดได้โดยไม่กระทบกับส่วนอื่นๆของโรงแรม อาจจะเริ่มจากง่า...