ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เข้าและออก บริหารให้เป็น

เงินไหลเข้า และเงินไหลออกของธุรกิจโรงแรมที่พักขนาดเล็ก บางครั้งเราอาจละเลยเพราะเป็นรายการเล็กๆ ทีละนิดทีละหน่อย และไม่มีการจดบันทึกกันอย่างสม่ำเสมอและเป็นระบบ ทำให้ตัวเลขต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านค่าใช้จ่ายถูกจัดเก็บอย่างไม่ครบถ้วน

ถ้าเราหัดทำรายรับ รายจ่ายอย่างละเอียดและเป็นระบบ จะทำให้เราเข้าใจกลไก และวงจรทางการเงินของธุรกิจเรา และจะช่วยให้การบริหารสภาพคล่องมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่การหารายได้แค่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน หากแต่มีเงินสำรองเผื่อในกรณีฉุกเฉินหรือเหตุการ์ณที่เราไม่สามารถคาดการ์ณล่วงหน้าได้

การเงินของธุรกิจโรงแรมก็เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ คือขาเข้า และขาออก  แต่เราควรมาทำความเข้าใจว่า"ขาเข้า"ของเราประกอบด้วยอะไรบ้าง แหล่งที่มาของรายได้แต่ละรายการมาจากไหน ความถี่ หรือรอบของรายได้ขาเข้าเป็นอย่างไร ซึ่งก็ต้องไล่ย้อนไปถึงเรื่องการตลาด ช่องทางการขายที่เราได้ไปบุกเบิก ทำการตลาดในตลาดต่างๆว่ามีตลาดอะไรบ้าง เงื่อนไขการจ่ายเงินเป็นอย่างไร  ลองมาดูคร่าวๆกันว่าแหล่งที่มาของรายได้ของโรงแรมมาจากไหน
1) การจองห้องพักโดยตรงกับโรงแรม ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ อีเมล์ หรือระบบการจองห้องพักของโรงแรมบนหน้าเว็บไซต์  จัดเป็นกลุ่มใหญ่รวมกัน คือลูกค้าจ่ายค่าที่พักโดยตรงกับโรงแรม ไม่ว่าจะจ่ายเงินสดหรือผ่านบัตรเครดิต
2) OTA  หรือ Online Travel Agent ได้แก่บริษัทต่างๆที่ขายห้องพักให้กับลูกค้าในโลกออนไลน์ ที่ยอดฮิตประจำประเทศไทยได้แก่ agoda.com และ booking.com รวมถึงเว็บแนะนำสถานที่เที่ยวต่างๆที่ปัจจุบันมีบริการรับจองห้องพักด้วยเช่นกัน เช่น chillpainai.com เป็นต้น  กลุ่มนี้โรงแรมรับรายได้จากบริษัทเหล่านี้โดยหักค่าใช้จ่ายประเภทค่าธรรมเนียม หรือ commission ตามสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ที่ตกลงกัน  รอบการจ่ายเงินก็เป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท
3) บริษัททัวร์ หรือ Travel Agent ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องส่งใบเรียกเก็บเงินไปเก็บเงินที่ปลายทาง ซึ่งจะใช้เวลาพอสมควร แต่ปัจจุบันบางบริษัทก็พัฒนาระบบการเรียกเก็บเงินให้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น แต่เอกสารต้องครบและถูกต้อง

เมื่อเราเห็นภาพ "ขาเข้า" ของเราแล้วก็ต้องมาดูว่าแต่ละช่องทางมีสัดส่วนอย่างไร เช่น เป็นเงินสดกี่เปอร์เซ็นต์  บัตรเครดิตกี่เปอร์เซ็นต์ และส่งใบเรียกเก็บเงินกี่เปอร์เซ็นต์

คราวนี้มาดู "ขาออก" กันบ้างว่ามีอะไรบ้าง

ขาออก หลักๆก็ได้แก่ เงินเดือนค่าจ้างพนักงาน  ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ท ค่าเคเบิ้ลทีวี ค่าอาหารสด อาหารแห้ง(กรณีมีร้านอาหาร) ค่าอุปกรณ์สึกหรอระหว่างเดือนที่ต้องมีรายการเปลี่ยนต่างๆ เช่น หลอดไฟส่องสว่าง เป็นต้น  นอกจากนั้นอาจมีรายการสั่งซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้จำเป็นของแต่ละแผนก ไม่ว่าจะเป็นแผนกแม่บ้าน แผนกสวน แผนกช่าง แผนกครัว ก็ควรไล่รายการออกมาให้หมด

ดังนั้นหากจะแบ่งค่าใช้จ่ายจะเห็นว่ามีค่าใช้จ่ายประจำ และค่าใช้จ่ายที่มาตามวาระ ในแต่ละเดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนหลังนี้ ถ้าเราช่วยกันวางแผนการจัดซื้อ สั่งซื้อและชำระเงิน ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระได้อย่างมากทีเดียว  ส่วนค่าใช้จ่ายประจำ ไม่ว่าอัตราการเข้าพักของคุณจะสูงหรือต่ำ คุณก็มีค่าใช้จ่ายตรงนี้

ดังนั้น การจับคู่ระหว่างรายได้ และรายจ่าย ควรมีความเหมาะสม และสัมพันธ์กันเพื่อให้การใช้จ่ายแต่ละเดือนไม่ติดขัด และมีสภาพคล่องที่ดี

การที่โรงแรมเล็กใช้การพึ่งพาบริษัทขายห้องพักทางโลกออนไลน์ในสัดส่วนที่สูงมากโดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องถูกหักไปในแต่ละเดือน เมื่อเกิดเหตุการ์ณฉุกเฉิน หรือเหตุการ์ณที่เราไม่สามารถคาดคิดย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจ

แนะนำให้นั่งไล่รายการทั้งขาเข้าและขาออก หรือรายได้และรายจ่ายให้ดี จัดเป็นหมวดหมู่ให้ชัดเจน  ถ้าเรามองภาพรวมอย่างเข้าใจ เราก็จะหาทางบริหารจัดการได้อย่างดี  แต่ถ้าเราไม่มีข้อมูล ไม่เคยเก็บตัวเลข ภาพทุกอย่างก็เกิดจากการคิดเอาเอง นึกเอาเอง  ดังนั้นการบริหารงานและบริหารการเงินจึงมีโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดได้ง่าย

ไม่สายที่จะเริ่มใหม่อย่างเป็นระบบ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

BOH1-01 : ทรัพย์สิน และหลังบ้านของโรงแรม

สำหรับโรงแรมที่พักขนาดเล็ก หลังบ้านจะช่วยจัดการงานอย่างไร? ผู้ประกอบกิจการขนาดเล็กถึงขนาดกลางมีข้อจำกัดด้านการลงทุนที่แตกต่างกัน แต่เราไม่ควรนำข้อจำกัดนั้นมาเป็นข้ออ้าง "การไม่ลงมือทำ" เพราะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันแต่อย่างใด เราลองมาดูตัวอย่าง การทำทะเบียนทรัพย์สิน และจดบันทึกรายการเครื่องมือเครื่องใช้ ต่างๆของแต่ละแผนกกันว่า ทำไมจึงเป็นปัญหาและมักเป็นข้ออ้าง ข้อหลีกเลี่ยงของพนักงานแม้กระทั่งในระดับหัวหน้างานเองที่มักจะเลือกที่จะทำรายการนี้ในลำดับหลังๆ  ถ้าพบเห็นพนักงานที่มีลักษณะเช่นนี้ แนะนำให้พิจารณาทบทวนใหม่เพราะไม่ใช่คุณสมบัติของพนักงานฝ่ายบัญชีการเงินที่ดีแต่อย่างใด การทำทะเบียนทรัพย์สินและการจดบันทึกรายการซื้อเครื่องมือเครื่องใช้ควรเริ่มลงมือทำตั้งแต่โครงการเริ่มก่อสร้างโดยแยกออกให้ชัดเจนระหว่างการก่อสร้าง การเตรียมการก่อนเปิด และเมื่อโรงแรมเปิดให้บริการ สำหรับโรงแรมที่ไม่ได้มีการสั่งซื้อระบบบันทึกข้อมูลด้านทรัพย์สินสำหรับแผนกบัญชี ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล เราสามารถทำรายการจดบันทึกได้โดยจัดเป็นหมวดหมู่ให้ชัดเจน จะจดบันทึกลงในสมุดและคั่นด้วยกระดาษแบ่...

เปลี่ยนผ่านที่แตกต่าง

สำ หรับโครงการสร้างใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโฮสเทล บูติกโฮเต็ล โรงแรม หรือรีสอร์ท สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนกับโครงการก่อสร้างอื่นๆ คือช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างโครงการก่อสร้าง มาเป็นโรงแรมที่พักที่พร้อมให้บริการต้อนรับลูกค้า สิ่งที่ควรทำความเข้าใจเพื่อให้เห็นภาพตั้งแต่เริ่มการก่อสร้างโครงการคือ ลำดับช่วงเวลา และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ไปจนถึงภาพต่างๆที่จะได้เห็นร่วมกัน  ทั้งทีมผู้ออกแบบ ผู้รับเหมาก่อสร้าง เจ้าของโครงการ และทีมงาน เพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักในหน้าที่และกรอบเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อให้โครงการสำเร็จตามกำหนดและตามเป้าหมายที่วางไว้ ยกตัวอย่างเช่น โครงการก่อสร้าง 8 เดือน แบ่งเป็น - งานฐานราก 2 เดือน - งานโครงสร้างสถาปัตยกรรมพื้นที่ส่วน A  รวม 2 เดือน - ห้องตัวอย่าง (เลือกพื้นที่และห้องที่ต้องการใช้เป็นห้องตัวอย่าง) ภายในเดือนที่ 4 เพื่อให้ทางทีมขายและทีมการตลาดสามารถเตรียมงานด้านการขายและการตลาดได้อย่างเต็มที่ มีเวลาแนะนำโครงการให้กับคู่ค้าต่างๆได้อย่างทั่วถึง - พื้นที่ส่วนสำนักงาน (BOH - Back of the House) เป็นลำดับต่อมา อาจเป็นเดือนที่ 5 เพื่อเตรียมรับสมัครงาน เตรีย...

วางแผนการใช้จ่าย

การจัดการด้านการเงินของโรงแรมที่พักขนาดเล็ก ไม่ว่าจะกี่ห้อง 4 ห้อง 15 ห้อง 35 ห้อง เป็นสิ่งจำเป็น อย่าไปคิดว่าโรงแรมที่พักขนาดเล็กไม่มีความจำเป็นต้องจัดทำงบประมาณ วางแผนค่าใช้จ่าย  ต้องแยกประเด็นให้ถูกเวลาเราพูดถึงจัดทำงบประมาณ  อย่าไปกังวลกับรูปแบบว่าจะต้องมีรูปแบบตารางเหมือนเช่นกับโรงแรมขนาดใหญ่  เจ้าของกิจการหลายท่านมักมีข้อกังวลตรงนี้ เพราะเวลาเข้าร่วมสัมนาหรือไปฟังบรรดาผู้รู้ทั้งหลายอธิบาย แล้วนำตัวอย่างตาราง หรือรายงานของโรงแรมขนาดใหญ่มาแสดงให้ดู  ก็เลยถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น   เปลี่ยนความคิดใหม่ และเริ่มจากในสิ่งที่เราทำได้ในแบบของเรา แล้วค่อยๆพัฒนาให้มีความละเอียดมากขึ้น การนั่งดูแต่รายรับหรือขาเข้าที่เข้ามาในแต่ละวัน โดยที่ไม่เคยมีการจัดระเบียบทั้งฝั่งค่าใช้จ่าย หรือขาออก เมื่อกิจการเติบโตมากขึ้น ความสลับซับซ้อน หรือจำนวนรายการก็จะมากขึ้น แต่ถ้าเราจัดหมวดหมู่รายการให้เป็นกลุ่มเป็นประเภทให้ชัดเจน เพื่อที่เราจะได้รู้สถานะของเรา จะทำให้เราสามารถบริหารจัดการ และรู้ได้ว่า ตรงไหนเราจะสามารถปรับ ตัด ลดได้โดยไม่กระทบกับส่วนอื่นๆของโรงแรม อาจจะเริ่มจากง่า...