จะสร้างโรงแรมแบบไหนดี ?
จะสร้างโรงแรมสไตล์ไหนดี ?
ประโยคที่มักเป็นคำถามยอดฮิตติดอันดับตลอดกาลสำหรับผู้สนใจลงทุนในธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กเพื่อเติมเต็มความฝันของตนเอง
สิ่งที่มักจะแนะนำให้ลองคิด ทบทวน และตอบคำถามในเบื้องต้นก่อนคือ "ทำไปทำไม ทำเพื่ออะไร และทำเพื่อใคร" ส่วนคำตอบที่ได้ก็มีหลากหลายทั้งในเรื่องการเงิน ชื่อเสียง ความฝัน ความชอบส่วนตัว และก็มักจะชวนให้คิดต่อไปอีกว่า "แล้วถ้าไม่ทำ หรือไม่ลงทุนในธุรกิจนี้ จะนำเงินไปลงทุนประเภทอื่นๆได้หรือไม่ โอกาสเป็นอย่างไร " เพื่อเปรียบเทียบหาข้อดี ข้อเสีย โอกาสและช่องทางอื่นๆ
แต่ถ้าตกลงปลงใจว่าจะลงมือทำแน่ๆ คงต้องหันมา "สร้างตัวตน" ที่ชัดเจนและแตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่ในท้องตลาด และคำถามที่ผู้ลงทุนมักจะตอบแบบกระอักกระอ่วน หรือยังขาดความชัดเจนในตัวเอง ก็คือ
"ทำไมลูกค้าต้องมาพักที่โรงแรมคุณ"
เพราะในคำตอบมีแต่คำว่า "ก็ฉันอยากจะทำ" "ก็ฉันอยากจะสร้าง" ดังนั้นทิศทางในการพัฒนาตัวสินค้าและบริการของโครงการโดยส่วนใหญ่จึงมักจะตั้งต้นมาจาก ความชอบในงานสถาปัตยกรรมหรือรสนิยมส่วนตัวในการตกแต่งภายใน การออกแบบอาคาร บ้าน หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่ประทับใจเป็นจุดเริ่มต้น และนำจุดนั้นมาเป็นตัวนำเรื่อง บังคับให้ส่วนอื่นๆพัฒนาในทิศทางเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ดังนั้นระหว่างทางในการพัฒนาโครงการที่ยังไม่มีตัวตนที่นิ่ง จึงมักจะไขว้เขวไปตามสิ่งต่างๆได้ง่ายดาย โดยเฉพาะเสียงจากคนรอบข้างที่ทั้งเป็นห่วงเป็นใยและติชมตามปกติ ทำให้มักมีการแฉลบออกข้างทางอยู่บ่อยครั้ง
สิ่งที่เจ้าของโครงการควรคำนึงอยู่เสมอ โดยเฉพาะการพัฒนาโรงแรมที่พักขนาดเล็ก คือการรับฟังอย่างหนักแน่น และพึงระลึกอยู่เสมอว่า ผู้หวังดีต่างๆเหล่านั้น ไม่ได้มามีส่วนรับผิดชอบต่ออนาคตของโครงการแต่อย่างใด หรือแม้แต่นิดเดียว แต่มักจะให้คำติชมตลอดเวลา "ทำไมไม่ทำแบบนั้น" "ทำไมไม่ทำแบบนี้"
การรับฟังอย่างหนักแน่น ไม่ใช่การปฏิเสธความเห็นจากผู้อื่น แต่หากโครงการเรามีแนวคิดที่ชัดเจนเป็นกรอบทั้งในด้านสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน และการให้บริการที่เราตกผลึกและหาข้อสรุปกันได้แล้ว ควรนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นกรอบในการทำงาน และเมื่อมีความเห็นเข้ามาเพิ่มเติม เราก็พิจารณาจากกรอบความคิดนี้เป็นหลัก และพยายามอธิบายให้ผู้ที่ไม่เข้าใจ หรือผู้ที่อยากจะแสดงความเห็น เข้าใจในแนวคิดของโครงการเรา (หากจำเป็นต้องอธิบาย)
การสร้างตัวตน อย่าไปจำกัดกรอบเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก ที่สะท้อนผ่านทางสถาปัตยกรรม หรือการตกแต่งภายใน การจัดสวน ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา รับรู้เมื่อเข้าไปสัมผัส แต่การสร้างตัวตนนั้น อธิบายง่ายๆ ก็คือ "เราอยากให้คนอื่นพูดถึงเราว่าอย่างไร"
คล้ายๆกับเวลาที่เราจะอธิบายว่าเพื่อนคนนี้มีนิสัยอย่างไร ชอบรับประทาน ไม่ชอบรับประทานอะไร กลัวอะไร เป็นต้น การทำโรงแรมขนาดเล็กก็เช่นกัน ความชัดเจนในตัวตนของเราจะสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งและมั่นคง และลูกค้าก็ไม่ต้องใช้เวลาในการตัดสินใจเลือกนาน ถ้าเราแสดงตัวตนของเราชัดเจน ลูกค้าก็เลือกง่าย และปัจจัยเรื่องราคาจะถูกพิจารณาเป็นอันดับรองลงไป
ยกตัวอย่างเช่น
โรงแรมนี้พนักงานน่ารักมาก เอาใจใส่ดูแลลูกค้าดี
โรงแรมนี้ไม่ขี้เหนียวเรื่องน้ำดื่มเลย เติมให้เต็มตู้ตลอดวัน
โรงแรมนี้ข้าวเหนียวมะม่วงรสละมุนมาก แถมยังเป็นมะม่วงอกร่องแท้
โรงแรมนี้ผ้าเช็ดตัวนุ่ม และซับน้ำดี เช็ดแล้วตัวแห้งสนิท ไม่เหมือนกับโรงแรมนั้นเลย ยี่ห้อดี แต่ไม่ซับน้ำ
โรงแรมนี้มีต้นมะลิเป็นแถวยาว กลิ่นหอมกรุ่นโชยมาตลอด
ระวังนะ ห้องน้ำตรงห้องอาหารโรงแรมนี้มันไม่ค่อยระบายอากาศ เข้าไปแล้วหายใจไม่ออก
ระวังนะ พนักงานต้อนรับที่นี่เย่อหยิ่งไม่เข้าเรื่องเข้าราว
........... เป็นต้น
สิ่งเล็กๆน้อยเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างตัวตนของคุณให้แข็งแกร่งและชัดเจนมากขึ้น และเมื่อมีการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ลูกค้าก็จะจดจำความประทับใจเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ และบอกต่อ ดังนั้นเวลาพัฒนาสร้างตัวตน ควรจัดสรรและแบ่งเวลางบประมาณให้กับการออกแบบการให้บริการ และวิธีปฏิบัติภายในโรงแรมให้ชัดเจนด้วย
จะสร้างโรงแรมสไตล์ไหนดี ?
ประโยคที่มักเป็นคำถามยอดฮิตติดอันดับตลอดกาลสำหรับผู้สนใจลงทุนในธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กเพื่อเติมเต็มความฝันของตนเอง
สิ่งที่มักจะแนะนำให้ลองคิด ทบทวน และตอบคำถามในเบื้องต้นก่อนคือ "ทำไปทำไม ทำเพื่ออะไร และทำเพื่อใคร" ส่วนคำตอบที่ได้ก็มีหลากหลายทั้งในเรื่องการเงิน ชื่อเสียง ความฝัน ความชอบส่วนตัว และก็มักจะชวนให้คิดต่อไปอีกว่า "แล้วถ้าไม่ทำ หรือไม่ลงทุนในธุรกิจนี้ จะนำเงินไปลงทุนประเภทอื่นๆได้หรือไม่ โอกาสเป็นอย่างไร " เพื่อเปรียบเทียบหาข้อดี ข้อเสีย โอกาสและช่องทางอื่นๆ
แต่ถ้าตกลงปลงใจว่าจะลงมือทำแน่ๆ คงต้องหันมา "สร้างตัวตน" ที่ชัดเจนและแตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่ในท้องตลาด และคำถามที่ผู้ลงทุนมักจะตอบแบบกระอักกระอ่วน หรือยังขาดความชัดเจนในตัวเอง ก็คือ
"ทำไมลูกค้าต้องมาพักที่โรงแรมคุณ"
เพราะในคำตอบมีแต่คำว่า "ก็ฉันอยากจะทำ" "ก็ฉันอยากจะสร้าง" ดังนั้นทิศทางในการพัฒนาตัวสินค้าและบริการของโครงการโดยส่วนใหญ่จึงมักจะตั้งต้นมาจาก ความชอบในงานสถาปัตยกรรมหรือรสนิยมส่วนตัวในการตกแต่งภายใน การออกแบบอาคาร บ้าน หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่ประทับใจเป็นจุดเริ่มต้น และนำจุดนั้นมาเป็นตัวนำเรื่อง บังคับให้ส่วนอื่นๆพัฒนาในทิศทางเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ดังนั้นระหว่างทางในการพัฒนาโครงการที่ยังไม่มีตัวตนที่นิ่ง จึงมักจะไขว้เขวไปตามสิ่งต่างๆได้ง่ายดาย โดยเฉพาะเสียงจากคนรอบข้างที่ทั้งเป็นห่วงเป็นใยและติชมตามปกติ ทำให้มักมีการแฉลบออกข้างทางอยู่บ่อยครั้ง
สิ่งที่เจ้าของโครงการควรคำนึงอยู่เสมอ โดยเฉพาะการพัฒนาโรงแรมที่พักขนาดเล็ก คือการรับฟังอย่างหนักแน่น และพึงระลึกอยู่เสมอว่า ผู้หวังดีต่างๆเหล่านั้น ไม่ได้มามีส่วนรับผิดชอบต่ออนาคตของโครงการแต่อย่างใด หรือแม้แต่นิดเดียว แต่มักจะให้คำติชมตลอดเวลา "ทำไมไม่ทำแบบนั้น" "ทำไมไม่ทำแบบนี้"
การรับฟังอย่างหนักแน่น ไม่ใช่การปฏิเสธความเห็นจากผู้อื่น แต่หากโครงการเรามีแนวคิดที่ชัดเจนเป็นกรอบทั้งในด้านสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน และการให้บริการที่เราตกผลึกและหาข้อสรุปกันได้แล้ว ควรนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นกรอบในการทำงาน และเมื่อมีความเห็นเข้ามาเพิ่มเติม เราก็พิจารณาจากกรอบความคิดนี้เป็นหลัก และพยายามอธิบายให้ผู้ที่ไม่เข้าใจ หรือผู้ที่อยากจะแสดงความเห็น เข้าใจในแนวคิดของโครงการเรา (หากจำเป็นต้องอธิบาย)
การสร้างตัวตน อย่าไปจำกัดกรอบเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก ที่สะท้อนผ่านทางสถาปัตยกรรม หรือการตกแต่งภายใน การจัดสวน ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา รับรู้เมื่อเข้าไปสัมผัส แต่การสร้างตัวตนนั้น อธิบายง่ายๆ ก็คือ "เราอยากให้คนอื่นพูดถึงเราว่าอย่างไร"
คล้ายๆกับเวลาที่เราจะอธิบายว่าเพื่อนคนนี้มีนิสัยอย่างไร ชอบรับประทาน ไม่ชอบรับประทานอะไร กลัวอะไร เป็นต้น การทำโรงแรมขนาดเล็กก็เช่นกัน ความชัดเจนในตัวตนของเราจะสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งและมั่นคง และลูกค้าก็ไม่ต้องใช้เวลาในการตัดสินใจเลือกนาน ถ้าเราแสดงตัวตนของเราชัดเจน ลูกค้าก็เลือกง่าย และปัจจัยเรื่องราคาจะถูกพิจารณาเป็นอันดับรองลงไป
ยกตัวอย่างเช่น
โรงแรมนี้พนักงานน่ารักมาก เอาใจใส่ดูแลลูกค้าดี
โรงแรมนี้ไม่ขี้เหนียวเรื่องน้ำดื่มเลย เติมให้เต็มตู้ตลอดวัน
โรงแรมนี้ข้าวเหนียวมะม่วงรสละมุนมาก แถมยังเป็นมะม่วงอกร่องแท้
โรงแรมนี้ผ้าเช็ดตัวนุ่ม และซับน้ำดี เช็ดแล้วตัวแห้งสนิท ไม่เหมือนกับโรงแรมนั้นเลย ยี่ห้อดี แต่ไม่ซับน้ำ
โรงแรมนี้มีต้นมะลิเป็นแถวยาว กลิ่นหอมกรุ่นโชยมาตลอด
ระวังนะ ห้องน้ำตรงห้องอาหารโรงแรมนี้มันไม่ค่อยระบายอากาศ เข้าไปแล้วหายใจไม่ออก
ระวังนะ พนักงานต้อนรับที่นี่เย่อหยิ่งไม่เข้าเรื่องเข้าราว
........... เป็นต้น
สิ่งเล็กๆน้อยเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างตัวตนของคุณให้แข็งแกร่งและชัดเจนมากขึ้น และเมื่อมีการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ลูกค้าก็จะจดจำความประทับใจเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ และบอกต่อ ดังนั้นเวลาพัฒนาสร้างตัวตน ควรจัดสรรและแบ่งเวลางบประมาณให้กับการออกแบบการให้บริการ และวิธีปฏิบัติภายในโรงแรมให้ชัดเจนด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น